วันที่ 21 พ.ย. นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงการจัดทำกฎหมายกู้เงิน พ.ร.บ. 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ว่าขณะนี้กฤษฎีกายังไม่ได้รับเอกสารจากกระทรวงการคลัง ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งตนได้สอบถามไปยังนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เกี่ยวกับกับการดำเนินการ โดยกระทรวงการคลังบอกว่า อยู่ในระหว่างรวบรวมประเด็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ที่ต้องการถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อส่งมาตามขั้นตอน
โดยขั้นตอนของการออกกฎหมายกู้เงินของรัฐบาลในปัจจุบันนั้น ยังไม่ได้เรียกว่าเป็นการจัดทำร่าง พ.ร.บ. เนื่องจากมติของที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่นั้น มอบหมายให้กฤษฎีกาไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อกฤษฎีกาดูความเห็นข้อกฎหมายและตอบคำถามจากรัฐบาลที่ส่งมาเกี่ยวกับการออกกฎหมายครบถ้วนชัดเจนแล้ว จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่อีกครั้ง ที่ประชุมจึงจะมีมติว่าสามารถเดินหน้าในการทำข้อกฎหมายเพื่อออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ได้หรือไม่
“อยากให้เข้าใจว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีการเสนอมาเป็นร่างกฎหมาย แต่จะส่งเป็นคำถามมาก่อนว่า ถ้าครบเงื่อนไขทำได้หรือเปล่าเท่านั้น และตอนนี้ก็ยังรออยู่ และก็ได้รับการยืนยันจาก รมช.จุลพันธ์ ว่า กำลังดูอยู่ และคงต้องสอบถามไปที่กระทรวงการคลัง”
ส่วนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่กฤษฎีกาจะไปดูได้แก่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินแผ่นดิน พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 กฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ 2548 กฎหมายเงินคงคลัง เป็นต้น รวมทั้งต้องดูอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีด้วย โดยเรื่องนี้ต้องดูตามข้อกฎหมายอย่างรอบคอบว่าทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ก็บอกทำไม่ได้ เรื่องนี้ได้มีความซับซ้อนอะไร
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะขอคำแนะนำจากกฤษฎีกาว่าทำอย่างไร จึงจะสามารถออกกฎหมายในเรื่องนี้ได้ บอกว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ เพราะว่าหน้าที่ในการหาวิธีการในการบริหารและออกนโยบายนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาล รวมทั้งเรื่องของการวินิจฉัยว่าเป็นเรื่องวิกฤติหรือไม่นั้น ก็คงไม่สามารถมาถามจากกฤษฎีกาได้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล และ ครม. ที่ต้องหาข้อมูลมาอธิบายในส่วนนี้
กรณีที่มีผู้ไปร้องเรียนกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินว่า การกู้เงินของรัฐบาลในครั้งนี้จะผิดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 มาตรา 53 หรือไม่ เลขาธิการกฤษฎีกาบอกว่าน่าจะเป็นการร้องเรียนที่เกินกว่าการทำงานของรัฐบาลไป เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่ได้มีการทำร่างกฎหมายในการกู้เงินของรัฐบาลเลย ยังอยู่ที่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายต่างๆ ของรัฐบาลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง